ประกาศความเป็นส่วนตัว

(สำหรับผู้ให้บริการภายนอกและคู่ค้าของกลุ่มธุรกิจทีซีพี)


บริษัท ที.ซี.ฟาร์มาซูติคอล อุตสาหกรรม จำกัด และบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท เดอเบล จำกัด, บริษัท ที.จี.เวนดิ้ง แอนด์ โชว์เคส อินดัสทรีส์ จำกัด, บริษัท ไฮ-เกียร์ จำกัดบริษัท ที ซี-เทรดดิ้ง แอนด์ลีสซิ่ง จำกัด, บริษัท เซอร์เคียวเฮอบอลเมด จำกัด, บริษัท ทีซีพี อินคิวเบเตอร์ จำกัด และ บริษัท เฮลท์เว่น จำกัด (รวมเรียกว่า “เรา” หรือ “กลุ่มธุรกิจทีซีพี ”) ในฐานะผู้ควบคุมข้อมูลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ส่งผลให้การประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ของเจ้าของข้อมูลซึ่งเป็นบุคคลธรรมดาที่ดำเนินการโดยกลุ่มธุรกิจทีซีพี จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด รวมถึงการแจ้งข้อมูลให้แก่เจ้าของข้อมูลทราบตามประกาศฯ ฉบับนี้


1.                   การเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล

 กลุ่มธุรกิจทีซีพี อาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูล ทั้งโดยทางตรงและทางอ้อมจากข้อมูลที่เจ้าของข้อมูล หรือตัวแทนของเจ้าของข้อมูลได้ให้ไว้กับกลุ่มธุรกิจทีซีพี หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าของข้อมูล ดังต่อไปนี้

§  ข้อมูลที่เจ้าของข้อมูลให้ไว้กับกลุ่มธุรกิจทีซีพี

§  ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจาก ตัวแทน หรือพนักงานภายในของผู้ให้บริการหรือคู่ค้าซึ่งเป็นนิติบุคคล

§     ข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับจากบริษัทในเครือของกลุ่มธุรกิจทีซีพี หรือบุคลากรภายในของกลุ่มธุรกิจทีซีพี

§  แหล่งข้อมูลสาธารณะหรือแหล่งข้อมูลอื่นใดที่เชื่อถือได้


2.                   ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่ กลุ่มธุรกิจทีซีพี จัดเก็บ

เราอาจจัดเก็บข้อมูลที่มีความหลากหลาย โดยพิจารณาจากวัตถุประสงค์ของการนำไปใช้ รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลดังนี้

2.1   ข้อมูลส่วนบุคคลพื้นฐาน

§     ข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนได้ เช่น รายละเอียดในบัตรประจำตัวประชาชน หรือหนังสือเดินทาง และสำเนาของเอกสารดังกล่าว และเอกสารอื่น ๆ ที่สามารถใช้ในการระบุตัวตนได้ เช่น ใบขับขี่ นามบัตร เป็นต้น 

§  ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ และข้อมูลอื่นที่สามารถติดต่อได้ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล สื่อสังคมออนไลน์ เป็นต้น

§  ข้อมูลหน่วยงานที่สังกัด สาขา แผนก ตำแหน่ง

§  ข้อมูลเกี่ยวกับการติดต่อมายังกลุ่มธุรกิจทีซีพี  เช่น ชื่อบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ที่ใช้ในการติดต่อ เรื่องที่ติดต่อ วัน/เดือน/ปี ที่เข้ามาติดต่อหรือเยี่ยมชม ณ สถานประกอบการของกลุ่มธุรกิจทีซีพี  หรือวัน/เดือน/ปี ที่ติดต่อผ่านมาทางช่องติดต่อต่าง ๆ ของกลุ่มธุรกิจทีซีพี  เป็นต้น

§     ข้อมูลทางการเงิน เช่น หน้าสมุดบัญชีธนาคาร ข้อมูลบัตรเครดิตและบัตรเดบิต ข้อมูลการทำธุรกรรม วิธีการชำระเงิน และรายละเอียดการชำระเงินอื่น ๆ เป็นต้น

§     ชื่อ-นามสกุล กรรมการบริษัทที่ปรากฏอยู่ในสำเนาหนังสือรับรองบริษัทและเอกสารทางราชการอย่างอื่น (ถ้ามี)

§     ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ที่ปรากฏอยู่หนังสือมอบอำนาจ รวมถึงสำเนาบัตรประชาชนของผู้มอบอำนาจและผู้รับอำนาจ

2.2   ข้อมูลดิจิทัลและออนไลน์ ซึ่งรวมไปถึงข้อมูลการใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

§  ข้อมูลเกี่ยวกับการเข้าถึงต่างๆ เช่น ระบบเข้าออกสถานประกอบการ หรือพื้นที่ภายในของกลุ่มธุรกิจทีซีพี

§  ข้อมูลที่เกี่ยวกับการติดต่อหรือมีปฏิสัมพันธ์กับเว็บไซต์ของกลุ่มธุรกิจทีซีพี  

§     การบันทึกภาพในระบบกล้องวงจรปิดซึ่งอยู่ในพื้นที่ส่วนกลางของกลุ่มธุรกิจทีซีพี

2.3   ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว

§  ข้อมูลเกี่ยวกับสุขภาพ เช่น ข้อมูลการตรวจสารเสพติด ใบรับรองแพทย์

§  ผลตรวจสอบประวัติอาชญากรรม


3.                   ระยะเวลาในการจัดเก็บข้อมูล

 กลุ่มธุรกิจทีซีพี จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็น เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้น ๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือตามระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนดโดยปกติในกรณีทั่วไป ระยะเวลาการเก็บข้อมูลสูงสุดจะเท่ากับ 10 ปี นับแต่วันที่นิติสัมพันธ์ระหว่างท่านกับกลุ่มธุรกิจทีซีพี สิ้นสุดลง อย่างไรก็ดี เราอาจเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นระยะเวลาเกินกว่าระยะเวลาดังกล่าว หากกฎหมายอนุญาตหรือการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวจำเป็นต่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องทางกฎหมายของกลุ่มธุรกิจทีซีพี

หลังจากครบกำหนดระยะเวลาดังกล่าวข้างต้น กลุ่มธุรกิจทีซีพี  จะลบหรือทำลายข้อมูลดังกล่าว จากพื้นที่จัดเก็บหรือระบบของกลุ่มธุรกิจทีซีพี และของบุคคลอื่นซึ่งให้บริการแก่กลุ่มธุรกิจทีซีพี (ถ้ามี) หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวท่านได้ เว้นแต่ จะเป็นกรณีที่กลุ่มธุรกิจทีซีพี สามารถเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวได้ต่อไปตามที่กฎหมายกำหนด

 

4.                   วัตถุประสงค์ของการใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

กลุ่มธุรกิจทีซีพี จะใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้

วัตถุประสงค์ในการประมวลผล

ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้าง

§  การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา

เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับจัดซื้อวัตถุดิบและวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้ในการผลิตสินค้า

§  การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา

เพื่อตรวจสอบ คัดเลือก และพิจารณาคุณสมบัติของ         ผู้ให้บริการภายนอก หรือคู่ค้า

§  การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา

เพื่อการขึ้นทะเบียนคู่ค้า (Approved Vendor List: AVL)

§  การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา

§  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

เพื่อการติดต่อกับผู้ให้บริการภายนอกหรือคู่ค้า

§  การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา

§  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

การประมวลผลการจ่ายและรับชำระเงิน

§  การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา

เพื่อการตรวจสอบคุณภาพของสินค้าและบริการที่จัดซื้อจัดจ้าง และการดำเนินการเสนอแนะให้ปรับปรุง

§  การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา

§  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

เพื่อจัดการเกี่ยวกับการไปทำงานต่างประเทศของบุคลากรของบริษัท

§  การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา

เพื่อการประเมินผลการจัดซื้อจัดจ้าง

§  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

เพื่อการดำเนินการเกี่ยวกับการจ้างผลิต

§  การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา

เพื่อการจัดงานประชุม งานสัมมนา งานพัฒนาเครือข่ายความสัมพันธ์ต่าง ๆ ทางธุรกิจ (networking) ของกลุ่มธุรกิจทีซีพี และเชิญชวนผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงานดังกล่าว

§  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

§  ความยินยอม

วัตถุประสงค์อื่น ๆ

เพื่อการซื้อขายกิจการ หรือการควบรวมกิจการ หรือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างขององค์กร

§  การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา

§  การปฏิบัติตามกฎหมาย

§  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

§  ความยินยอม

เพื่อการตรวจสอบ วิเคราะห์ และจัดเตรียมเอกสารตามที่หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องร้องขอ

§  การปฏิบัติตามกฎหมาย

เพื่อประเมินและดำเนินการจัดการข้อร้องเรียนต่าง ๆ

§  การปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา

§  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

§  การปฏิบัติตามกฎหมาย

เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การฟ้องร้อง และดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

§  การปฏิบัติตามกฎหมาย

เพื่อใช้ในการวิเคราะห์ ปรับปรุง แก้ปัญหาและพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริการ รวมถึงกระบวนการดำเนินธุรกิจต่าง ๆ ของกลุ่มธุรกิจทีซีพี

§  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

เพื่อการบริหารจัดการด้านการเงิน การบัญชี และการตรวจสอบต่าง ๆ ของกลุ่มธุรกิจทีซีพี  

§  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

§  การปฏิบัติตามกฎหมาย

เพื่อการประกอบธุรกิจที่กลุ่มธุรกิจทีซีพี มีความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูล

§  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

เพื่อการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล สถานประกอบการ ทรัพย์สินของกลุ่มธุรกิจทีซีพี และของบุคคลทั่วไป

§  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

เพื่อการเฝ้าระวังการใช้สารเสพติดสำหรับบุคคลที่เข้ามาทำงานในพื้นที่ของบริษัท อันเป็นการป้องกันการเกิดอุบัติเหตุและอาชญากรรมจากการใช้สารเสพติด

§  ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย

§  ความยินยอม

 

หากเจ้าของข้อมูลไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่จำเป็นต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา หรือเพื่อการปฏิบัติตามกฎหมาย กลุ่มธุรกิจทีซีพี  จะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาที่มีต่อเจ้าของข้อมูลดังกล่าวได้ หรือไม่สามารถปฏิบัติตามกฎหมายได้

กลุ่มธุรกิจทีซีพี จะประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และในกรณีที่กลุ่มธุรกิจทีซีพี  ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลสามารถเพิกถอนความยินยอมได้ตลอดเวลา

 

5.                   ผู้ที่ได้รับการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลจาก กลุ่มธุรกิจทีซีพี  

 กลุ่มธุรกิจทีซีพี อาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลของท่านภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ไปยังองค์กร หน่วยงานของรัฐ หรือบุคคลภายนอก รวมถึง

§     บุคคลหรือนิติบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินธุรกรรมของบริษัท เช่น บริษัทในเครือของกลุ่มธุรกิจทีซีพี ทั้งในและต่างประเทศ บริษัทร่วมค้า บริษัทร่วมทุน หุ้นส่วนทางธุรกิจ การเสนอขายกิจการหรือเข้าควบรวมกิจการกับบริษัทใด ๆ ในกลุ่มธุรกิจทีซีพี การทำโปรโมชั่นร่วมกัน การมอบหมาย การโอน หรือการจัดการในรูปแบบใด ๆ ในทางธุรกิจ ทรัพย์สิน หรือหุ้นของกลุ่มธุรกิจทีซีพี    

§  ที่ปรึกษา เช่น ที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาทางการเงิน ผู้ตรวจสอบบัญชี นายธนาคาร และผู้มีวิชาชีพในสาขาวิชาชีพอื่นทั้งในและต่างประเทศ

§      หน่วยงานภาครัฐ และหน่วยงานกำกับดูแล เช่น กรมสรรพากร กรมการปกครอง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมทรัพย์สินทางปัญญา กรมการค้าต่างประเทศ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำนักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานอัยการสูงสุด ศาล และกรมบังคับคดี เป็นต้น

§  ผู้ควบคุมข้อมูลอื่นที่เจ้าของข้อมูลให้ส่งหรือโอนข้อมูลไปให้

 

การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด หรือวัตถุประสงค์อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่า ต้องได้รับความยินยอมจากท่าน กลุ่มธุรกิจทีซีพี จะขอความยินยอมจากท่านก่อน

 ในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน กลุ่มธุรกิจทีซีพี จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผยและเพื่อปฏิบัติตามมาตรฐานและหน้าที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่กลุ่มธุรกิจทีซีพี ส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ กลุ่มธุรกิจทีซีพี จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่า ประเทศปลายทาง องค์การระหว่างประเทศ หรือผู้รับข้อมูลในต่างประเทศนั้น มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ หรือเพื่อทำให้แน่ใจว่าการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด โดยในบางกรณี เราอาจขอความยินยอมของท่านสำหรับการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศดังกล่าว

 

6.                   มาตรการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล

กลุ่มธุรกิจทีซีพี ใช้ระบบรักษาความปลอดภัยที่มีมาตรฐานสูงทั้งในด้านเทคโนโลยีและกระบวนการ เพื่อป้องกันการโจรกรรมข้อมูล กลุ่มธุรกิจทีซีพี  ได้ลงทุน ทุ่มเทเวลา และบุคลากรเป็นจำนวนมาก เพื่อให้มั่นใจว่า กลุ่มธุรกิจทีซีพี  มีการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสูง ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน ISO/IEC 27001 ข้อมูลของเจ้าของข้อมูลจะปลอดภัย ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ของกลุ่มธุรกิจทีซีพี  ได้รับการปกป้องด้วยมาตรการต่าง ๆ ของกลุ่มธุรกิจทีซีพี  พื่อรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เป็นความลับ ป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง การทำลาย การใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โดยไม่มีสิทธิ หรือโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

กลุ่มธุรกิจทีซีพีได้ทุ่มเทและใช้ความพยายามในการดูแลข้อมูลให้มีความปลอดภัย ด้วยการใช้เครื่องมือทางเทคนิคร่วมกับการบริหารจัดการโดยบุคคล เพื่อควบคุมและรักษาความปลอดภัยข้อมูล มิให้มีการเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวหรือข้อมูลที่เป็นความลับของเจ้าของข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่อาจไม่สามารถป้องกันความผิดพลาดได้ทุกประการ เช่น การปกป้องข้อมูลของเจ้าของข้อมูล จากการถูกจู่โจมโดยไวรัสคอมพิวเตอร์ หรือถูกเข้าถึงโดยบุคคลที่ไม่มีอำนาจได้ เจ้าของข้อมูลจึงควรติดตามข่าวสารเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ให้ทันสมัยอยู่เสมอ ติดตั้งซอฟต์แวร์ประเภท personal firewall เพื่อป้องกันคอมพิวเตอร์จากการจู่โจมหรือโจรกรรมข้อมูล


7.                   สิทธิของเจ้าของข้อมูล

การใช้สิทธิในเรื่องใด ๆ ตามที่ระบุไว้ในข้อ 7 นี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล ตามที่กำหนดไว้ในข้อ 8 ของหนังสือแจ้งฉบับนี้ อนึ่ง สิทธิตามที่กำหนดไว้ในข้อ 7 นี้ อาจมีการปรับปรุงแก้ไขให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ซึ่งอาจมีการออกหลักเกณฑ์โดยรัฐเป็นคราว ๆ โดย กลุ่มธุรกิจทีซีพี จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบต่อไป

7.1               สิทธิในการได้รับแจ้งข้อมูล: ในกรณีที่กลุ่มธุรกิจทีซีพี  มีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ หรือที่นอกเหนือจากความยินยอมใด ๆ ที่ได้ให้ไว้ กลุ่มธุรกิจทีซีพี จะแจ้ง และ/หรือขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่อยู่นอกวัตถุประสงค์ดังกล่าว

7.2               สิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล: เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของตน และมีสิทธิที่จะร้องขอให้เปิดเผยถึงการได้มาซึ่งข้อมูลของเจ้าของข้อมูล

7.3               สิทธิในการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง: ในกรณีที่ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลง เจ้าของข้อมูลจะดำเนินการยื่นคำขอแก้ไขข้อมูลดังกล่าว ตามวิธีการที่กำหนดไว้ในข้อ 7 ได้ เพื่อทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

7.4               สิทธิในการโอนถ่ายข้อมูลส่วนบุคคล: ในกรณีที่ระบบของกลุ่มธุรกิจทีซีพี รองรับ เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของตน ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานโดยทั่วไปได้ โดยเครื่องมืออุปกรณ์อัตโนมัติ หรือขอให้โอนโดยอัตโนมัติได้

7.5               สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคล: เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลได้ในกรณีหนึ่งกรณีใดดังต่อไปนี้ (ก) หมดความจำเป็นอีกต่อไปในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์ (ข) เมื่อเจ้าของข้อมูลถอนความยินยอมในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล โดยกลุ่มธุรกิจทีซีพี  ไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะประมวลผลข้อมูลนั้นอีกต่อไป (ค) เมื่อเจ้าของข้อมูลคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล หรือ (ง) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลได้ถูกประมวลผลโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

7.6               สิทธิในการระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคล: เจ้าของข้อมูลมีสิทธิขอให้กลุ่มธุรกิจทีซีพี ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลได้ดังนี้

(1) เมื่อกลุ่มธุรกิจทีซีพี อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลตามที่เจ้าของข้อมูลร้องขอให้ดำเนินการปรับปรุง เพื่อทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลนั้นถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด

(2) เมื่อเป็นข้อมูลที่ต้องลบหรือทำลายตามข้อ 7.5 แต่เจ้าของข้อมูลขอให้ระงับการใช้ข้อมูลแทน

(3) เมื่อข้อมูลส่วนบุคคลหมดความจำเป็นในการเก็บรักษาไว้ แต่เจ้าของข้อมูลขอให้กลุ่มธุรกิจทีซีพี เก็บรักษาข้อมูลไว้ก่อน เพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

(4) มื่อกลุ่มธุรกิจทีซีพี อยู่ในระหว่างการพิสูจน์การเก็บรวมรวมข้อมูลส่วนบุคคลหรืออยู่ระหว่างตรวจสอบการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์ตามที่กฎหมายกำหนด

7.7               สิทธิในการคัดค้านการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล: เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะคัดค้านการเก็บ รวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับตนได้ ในกรณีดังต่อไปนี้

(1)   เป็นข้อมูลที่กลุ่มธุรกิจทีซีพี  ได้มีการเก็บรวมรวมข้อมูลดังกล่าว (ก) จากการปฏิบัติหน้าที่ของกลุ่มธุรกิจทีซีพี  จากคำสั่งของรัฐ หรือ (ข) จากความจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของกลุ่มธุรกิจทีซีพี หรือของนิติบุคคลอื่น

(2)  เป็นกรณีที่กลุ่มธุรกิจทีซีพี ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง

(3)   เป็นกรณีที่กลุ่มธุรกิจทีซีพี ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยในด้านต่าง ๆ  ที่กฎหมายกำหนด ซึ่งรวมถึงทางสถิติ

7.8               สิทธิในการเพิกถอนความยินยอม: เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมเมื่อใดก็ได้ โดยการถอนความยินยอมดังกล่าว จะไม่กระทบต่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลใด ๆ ที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ความยินยอมไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งนี้ หากการถอนความยินยอมจะส่งผลกระทบต่อข้อมูลส่วนบุคคลในเรื่องใด กลุ่มธุรกิจทีซีพี จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงผลกระทบจากการถอนความยินยอม

อนึ่ง กลุ่มธุรกิจทีซีพี อาจปฏิเสธคำขอใช้สิทธิข้างต้น หากการดำเนินการใด ๆ เป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ หรือเป็นกรณีที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือคำสั่งศาล หรือเป็นกรณีที่อาจส่งผลกระทบ และก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิ หรือเสรีภาพของเจ้าของข้อมูล หรือบุคคลอื่น หรือเป็นการดำเนินการเพื่อการศึกษาวิจัยทางสถิติที่มีมาตรการปกป้องข้อมูลที่เหมาะสม หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้อง การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้อง หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย

หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางการปฏิบัติของกลุ่มธุรกิจทีซีพี เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน โปรดติดต่อกลุ่มธุรกิจทีซีพี ตามช่องทางการติดต่อที่ได้แจ้งไว้ในข้อ 9 ทั้งนี้ ในกรณีที่มีเหตุให้เชื่อได้ว่ากลุ่มธุรกิจทีซีพี ได้ทำการฝ่าฝืนกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามระเบียบและวิธีการตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

 

8.                   หลักเกณฑ์และวิธีการใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูล

8.1

§ เจ้าของข้อมูลที่ประสงค์จะใช้สิทธิ ให้ยื่นแบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ผ่านทาง หน้าเว็บไซต์ของกลุ่มธุรกิจทีซีพี : https://privacy.tcp.com/dsr?id=1f0deb2d-1261-43a7-8b61-90acb9905665&t=0 หรือติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มธุรกิจทีซีพี ผ่านช่องทางการติดต่อที่ระบุในข้อ 9 นี้

§ กรุณาระบุว่า “คำขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล” รวมถึงระบุชื่อ นามสกุล และข้อมูลการติดต่อกลับ

8.2

§ คำร้องจะถูกนำส่งมาที่เจ้าหน้าที่ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของกลุ่มธุรกิจทีซีพี  เพื่อการตรวจสอบตัวตนของผู้ยื่นคำร้องขอ

§ ในการตรวจสอบตัวตนของผู้ยื่นคำร้องขอใช้สิทธิ กลุ่มธุรกิจทีซีพี จะทำผ่านระบบการยืนยันตัวตน ThaiD หรือส่งเอกสาร ได้แก่ สำเนาของเอกสารยืนยันตัวตนที่ออกโดยราชการ (เช่น บัตรประชาชน ใบขับขี่ หนังสือเดินทาง) ที่อยู่ที่สามารถติดต่อได้ เบอร์โทรศัพท์ ให้กับกลุ่มธุรกิจทีซีพี หรือ ข้อมูลของผลิตภัณฑ์ที่ท่านได้ซื้อจากกลุ่มธุรกิจทีซีพี  โดยแนบแบบคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ตาม Link ที่ปรากฏในข้อ 8.1 นอกจากนี้ ท่านจำเป็นจะต้องลงชื่อในคำร้องขอดังกล่าวด้วย

8.3

§ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล จะต้องพิจารณาคำร้องว่าจะสามารถดำเนินการได้หรือไม่ เช่น พิจารณาความสมเหตุสมผล หรือผลกระทบในทางลบที่อาจเกิดขึ้นกับผู้อื่น เป็นต้น หรือมีเหตุปฏิเสธตามที่กฎหมายกำหนดไว้หรือไม่

8.4

§ ในกรณีที่คำร้องขออยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะดำเนินการได้ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะดำเนินการตามคำร้องขอใช้สิทธิ และแจ้งให้ท่านทราบโดยเร็ว ตามช่องทางการติดต่อที่เจ้าของข้อมูลได้แจ้งไว้ในแบบคำร้องขอใช้สิทธิ

8.5

§ ในกรณีที่คำร้องขอใช้สิทธิ ไม่อยู่ในหลักเกณฑ์ที่จะดำเนินการให้ได้ เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลจะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบโดยเร็ว ตามช่องทางการติดต่อที่เจ้าของข้อมูลได้แจ้งไว้ในแบบคำร้องขอใช้สิทธิ พร้อมระบุเหตุผลของการปฏิเสธ ทั้งนี้ เจ้าของข้อมูลมีสิทธิที่จะร้องทุกข์ต่อหน่วยงานกำกับดูแลตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งจะแจ้งให้ท่านทราบในหนังสือแจ้งผลการพิจารณา

 

หมายเหตุ:

1.            การดำเนินการตามขั้นตอนข้างต้น จะใช้เวลาไม่เกินกว่า 30 (สามสิบ) วัน นับจากวันที่ได้รับคำร้องขอใช้สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลและเอกสารประกอบคำร้องขอดังกล่าวครบถ้วน

2.            การดำเนินการตามคำร้องขอข้างต้นไม่มีค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ดีหากการดำเนินการตามคำร้องขอส่วนใดมีค่าใช้จ่าย กลุ่มธุรกิจทีซีพี จะแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบก่อนดำเนินการ

 

9.                   ช่องทางและสถานที่ติดต่อ

ในกรณีที่เจ้าของข้อมูลมีคำถามเกี่ยวกับการใช้สิทธิของตนหรือความยินยอมที่เจ้าของข้อมูลได้ให้ไว้ ท่านสามารถติดต่อได้ที่เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

สถานที่ติดต่อ:                       เลขที่ 288 ถนนเอกชัย แขวงคลองบางพราน เขตบางบอน กรุงเทพมหานคร

หมายเลขโทรศัพท์:                 094-981-1044

อีเมล:                                    DPO@tcp.com

 

10.               การเปลี่ยนแปลงหนังสือฉบับนี้

กลุ่มธุรกิจทีซีพี อาจทำการเปลี่ยนแปลงประกาศฉบับนี้ เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และตามที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องกำหนด โดยกลุ่มธุรกิจทีซีพี จะแจ้งให้ท่านทราบถึงการแก้ไขเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ผ่านช่องทางที่เหมาะสม รวมถึงบนเว็บไซต์ของกลุ่มธุรกิจทีซีพี